แมวมงคล แมวร้ายให้โทษ แมวไทยที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน หน้าหลัก

สายพันธุ์แมวไทยที่เหลืออยู่

โกญจา : แมวดำมิ่งมงคล

โกญจา

กายดำคอสุดท้อง ขาขนเลเอียดเฮย
ตาดั่งศรีบวบกล ดอกแย้ม
โกนจาพนนิพนธ์ นามกล่าว ไว้นา
ปากแลหางเรียวแฉล้ม ทอดเท้าคือสิงห์

ย่อหน้า โดยปกติคนทั่วไปมักคิดว่าแมวดำเป็นแมวที่นำโชคร้ายมาสู่เจ้าของจึงไม่นิยมเลี้ยงกัน แต่หากสืบสาวเรื่องราวย้อนกลับไปแล้ว เราจะพบว่าในตำรา ดูแมวไทยโบราณจะมีการกล่าวถึงแมวสีดำว่าเป็นแมวมงคลอยู่หลากหลายชนิด ซึ่งในบรรดาแมวดำมงคลทั้งหมดที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันนั้นมี เพียงแค่ชนิดเดียว คือ แมวโกญจา หรือบางแห่งก็เขียนว่า โกนจา นั่นเอง

ย่อหน้า แมวโกญจา เป็นแมวที่มีลักษณะเด่นคือมีขนสีดำสนิทตลอดทั้งตัว โดยที่ไม่มีสีอื่นปะปนเลยแม้แต่น้อย เลยมีอีกชื่อเรียกว่า “ดำปลอด” นั่นเอง หากใครจับที่เส้นขนจะพบว่าขนของแมวชนิดนี้เส้นขนสั้นแต่เล็กละเอียดและนุ่มมาก และอีกจุดเด่นหนึ่งที่ชัดเจนมากก็คือดวงตาของแมวโกญจามี สีเหลืองทองหรือสีเหลืองอมเขียว ซึ่งในตำราเปรียบเปรยไว้ว่าราวกับดอกบวบแรกแย้ม กล่าวกันว่าแมวพันธุ์นี้มีท่วงท่าการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ปราดเปรียว แต่ก็แฝงไว้ด้วยความสง่างามราวกับสิงห์ สร้างความน่าเกรงขามแก่ใครก็ตามที่ได้พบเห็น

โกญจา

ย่อหน้า ที่มาของชื่อโกญจานั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด โดยชื่อนี้หากดูตามความหมายตรงตัวแล้วมีอยู่ 2 ความหมาย ความหมายแรกหมายถึงนกกระเรียน ส่วนความหมายที่สองนั้นแปลว่า เสียงดังกึกก้องกังวานเวลาร้อง ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าความหมายไหนถูกต้องกันแน่ นอกจากนี้แมวโกญจายังมักถูกจำ สับสนและเข้าใจผิดว่าเป็นแมวนิลรัตน์ ซึ่งในความเป็นจริงตามตำราแมวไทยแล้ว แมวสองชนิดนี้แม้จะมีสีดำเหมือนกันแต่ก็มีจุดแตกต่างกันและถือ ว่าเป็นคนละชนิดกัน ส่วนในต่างประเทศนั้นมีแมวสายพันธุ์หนึ่งชื่อว่าบอมเบย์ ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาและลักษณะใกล้เคียงกับพันธุ์โกญจามากเช่นกัน

ย่อหน้า หลายคนมักคิดว่าแมวดำนั้นเป็นแมวอัปมงคล แต่ความจริงแล้วในหลายชนชาติรวมไปถึงในประเทศไทยสมัยโบราณเองก็ถือว่าแมวดำเป็นแมวที่ นำโชคลาภมาให้เช่นกัน ถึงอย่างไรก็ดีสิ่งสำคัญนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องสีขนของแมว เพราะหากเรารังเกียจแมวเพียงเพราะว่ามีสีดำนั้น เราก็อาจจะ เป็นคนใจดำมากไปเสียหน่อย

ย่อหน้า ซึ่งการเป็นคนใจดำนั้น…บางทีอาจเป็นปัญหามากกว่าแมวสีดำเสียอีก

Follow Me

Facebook